บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2015

เมื่อฉันไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศฮ่องกง |.:7:.ภารกิจแรกของอาสาสมัครนานาชาติ ภาค2

รูปภาพ
หลังจากมื้อกลางวันผ่านไป ทุกคนกลับขึ้นรถ เรากำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไปของวันนี้ รถบัสจอดลงริมถนนหน้าวัดแห่งหนึ่ง วัดแห่งนี้ชื่อวัดชียวนโก๊ะ ที่ประตูทางเข้าวัดมีรูปปั้นทหารสองคนยืนอยู่ จอร์แดนบอกกับเราว่าวัดนี้เป็นวัดเดียวที่มีทหารเฝ้าประตูเป็นทหารอินเดีย อื้มมม รูปปั้นโพกผ้าบนหัวเหมือนคนอินเดียจริงๆด้วย ทางเข้าวัดเป็นบันไดสูงชันวนขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนขึ้นเขาเลยค่ะ(ก็ขึ้นเขาจริงๆนั่นแหละ) มีชานพักระหว่างทางเผื่อคนเหนื่อยด้วย พอขึ้นมาถึงบริเวณวัด เราได้เห็นรูปปั้นเทพเจ้าเรียงรายกันอยู่ในตู้กระจกหลายองค์ด้วยกัน เครเดิลพยายามบอกว่าแต่ละองค์เป็นเทพเจ้าอะไร แต่เมมโมรี่ในสมองน้อยๆของฉันจำได้ไม่หมดจริงๆ แต่ที่เห็นแล้วจำได้เลยก็คือพระพุทธรูปลักษณะอ้วนลงพุง แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์มีโชคมีลาภ พระสังขจายให้ลาภหรือพระสังกัจจายน์นั่นเอง ก็แหม ในวัดพุทธของประเทศไทยก็มีรูปของท่านมากมายเหลือเกิน   เดินต่อไปอีกเราก็เจอกับตู้กระจกขนาดใหญ่ที่ข้างในจัดแสดงหุ่นรูปปั้นเทพธิดา เทพเจ้า วัว และนกพิราบ อยู่ในฉากสรวงสวรรค์ซึ่งเป็นนิทานตำนานเกี่ยวกับวันแห่งความรักของจีนนั่นเอง เด็กๆช่วยกันเล่...

เมื่อฉันไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศฮ่องกง |.:6:.ภารกิจแรกของอาสาสมัครนานาชาติ และอาหารฮ่องกงมื้อแรก

รูปภาพ
ฉันกินอาหารเช้าที่สำนักงาน   SCI   เป็นมื้อแรกของวัน แต่เปล่าค่ะ มื้อนี้ไม่ใช่อาหารฮ่องกง แต่เป็น...ซีเรียลใส่น้ำอุ่น...ปกติฉันไม่ชินกับการกินซีเรียลใส่น้ำเปล่าเท่าไหร่ เพราะปกติฉันเชื่อว่าเกือบทุกคนกินมันกับนม แต่ ณ เวลานั้น ในสำนักงาน   SCI   ไม่มีอะไรให้กินเท่าไหร่ ฉันจึงจำเป็นต้องกินซีเรียลกับน้ำเปล่ากันตายไป   1   มื้อ โถ่...อดอยากจริงๆเจินลี่ แต่ถ้าหิวระหว่างวัน ฉันก็มีช๊อคโกแลตโง่ๆอันจิ๋วที่เก็บมาจากบนเครื่องบินติดกระเป๋าอยู่   1   อัน อาจช่วยกันตายได้อีกทางหนึ่ง พอกินอาหารเช้ารองท้องกันเสร็จแล้ว ซาร่าพาเราทั้ง 3 คน ฉัน แมทธิว และซาช่าลงรถไฟใต้ดินไปเพื่อพบกับเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน ที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในฝั่งเกาลูน (ฝั่งที่เป็นแผ่นดินใหญ่ของฮ่องกงนั่นเองค่ะ) ลงรถไฟใต้ดินแล้วก็ต้องเปลี่ยนสายประมาณ 2 ครั้ง ระหว่างทางทั้งซาร่า ซาช่า และแมทธิวต่างคุยกันเป็นภาษาอังกฤษรัวๆ ณ ตอนนั้น ความรู้สึกของเจินน้อยเด็กดอยเคว้งคว้างและโดดเดี่ยวมากเพราะเหตุผลหลักๆสามข้อคือ  หนึ่งคือฟังไม่ทัน สองคือฟังไม่ทัน สามก็คือ ฟังไม่ทันอีกนั่นแหละ......